วันพุธ, ธันวาคม 24, 2557

ปิดเฟสบุ๊ค “จอม เพชรประดับ” วอนเฟสบุ๊ค ปกป้องเสรีภาพที่มีน้อยนิดในประเทศไทย


นายจอม เพชรประดับ สื่อมวลชนไทยที่ลี้ภัยการเมืองอยู่ในต่างประเทศ เพราะไม่ยอมรับการทำรัฐประหารในประเทศไทย เมื่อ 22 พฤษภาคม 2557 ที่ผ่านมาและได้เปิดเวปไซด์ “Thaivoicemedia.com” เปิดพื้นที่การสื่อสารอย่างเป็นอิสระบนหลักการของสิทธิเสรีภาพอยู่ในต่างประเทศ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2557 ที่ผ่านมา ไม่สามารถเข้าเฟสบุ๊คส่วนตัวที่เพิ่งเปิดขึ้นมาใหม่ได้ หลังจากก่อนหน้านี้เพจเก่าถูกทางเฟสบุ๊คได้ปิดไป ด้วยเหตุผลว่า ใส่ข้อมูลไม่ถูกต้อง 

และเมื่อเปิดขึ้นมาใหม่โดยใช้ชื่อจริง นามสกุลจริง และข้อมูลส่วนตัวที่เป็นจริงทั้งหมดเมื่อเกือบ 2 เดือนที่แล้ว แต่กลับถูกทางเฟสบุ๊คปิดการใช้งานชั่วคราวอีกครั้ง โดยให้เหตุผลว่า ไม่ได้ใช้ชื่อจริง หรือข้อมูลจริงในการสมัคร

“หลังจากที่เปิดเข้าเฟสบุ๊คเมื่อเช้าวันที่ 23 ธันวาคม หน้าเพจบอกให้ กรอกข้อมูลชื่อใหม่ ก็กรอกไปตามปกติ ใส่ชื่อจริง นามสกุลจริง และข้อมูลจริงทุกประการ แต่ระบบตอบว่าไม่ใช่ชื่อจริง ระบบให้ยืนยันชื่อจริงตามนโยบายเฟสบุ๊ค พร้อมสั่งเอกสารสำคัญยืนยัน ก็ได้ใช้ข้อมูลจริง ยืนยันและส่งไปทั้งหมด ทั้ง บัตรประชาชน ใบขับขี่ หนังสือเดินทาง เพื่อยืนยันว่า เป็นตัวจริงทุกประการ เพราะไม่ต้องการปิดบังตัวเองแต่อย่างใด แม้จะว่าถูกติดตามความเคลื่อนไหวจากรัฐบาลไทยก็ตาม” นายจอมกล่าว

นายจอมกล่าวต่อไปว่า เมื่อยืนยันข้อมูลส่วนตัวทั้งหมดไปให้แล้ว ระบบแจ้งให้ทราบว่า ได้รับข้อมูลยืนยันแล้ว ทางเฟสบุ๊คจะขอตรวจสอบบัญชีผู้ใช้นี้อีกครั้ง แล้วจะติดต่อกลับมาทางเมล์ในอีกสองสามวัน ซึ่งนั่นหมายความว่า นับจากนี้ไปก็ได้แต่รอ

“เป็นเรื่องผิดปกติอย่างยิ่ง ผมใช้เฟสบุ๊คมานาน และได้ปฎิบัติตามนโนบายของเขาตลอด ไม่ได้ใช้คำหยาบคาย หรือนำภาพที่ไม่เหมาะสมขึ้น แต่ปัญหานี้ น่าจะเป็นเพราะผมมักจะมีบทความ บทวิเคราะห์ที่เกี่ยวข้องกับการวิพากษ์วิจารณ์กลุ่มเผด็จการทหารในประเทศไทย หรือ อาจจะเป็นเพราะมีการพูดถึง วิพากษ์วิจารณ์ สถาบันกษัตริย์ในประเทศไทย อยู่บ่อยครั้งหรือไม่ 

แต่ยืนยันว่า บทความ หรือ บทวิเคราะห์ต่าง ๆ ที่นำขึ้นบนเพจส่วนตัวของผม ล้วนแล้วนำมาจากสำนักข่าวต่างประเทศ หรือในประเทศที่เชื่อถือได้ทั้งสิ้น หรือ หากเป็นการวิเคราะห์ วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลเผด็จการทหารในประเทศไทย ก็เป็นบุคคลที่อ้างอิงได้ มีความรู้ เป็นนักวิชาการทั้งนั้น จึงขอเรียกร้องสิทธิเสรีภาพในการสื่อสาร การแสดงความคิดเห็นกับทางบริษัทเฟสบุ๊คด้วย เพราะพื้นที่เฟสบุ๊คของผมเป็นช่องทางสื่อสารที่สำคัญสำหรับประชาชนคนไทยที่ถูกปิดกั้นการแสดงความคิดเห็นในประเทศไทยในเวลานี้” นายจอมกล่าว

ที่มา Thai Voice Media
TUE, 12/23/2014