กรุงเทพโพลล์ชี้ คะแนนความพึงพอใจของปชช. ต่อรัฐบาลลดลง

ที่มา บีบีซีไทย

ผลสำรวจของกรุงเทพโพลล์ สังกัดมหาวิทยาลัยกรุงเทพ ประเมินผลงานของรัฐบาล พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา เทียบกับผลงานในช่วง 3 เดือนที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) บริหารประเทศพบว่าคะแนนความพึงพอใจของประชาชนในการบริหารงานของรัฐบาล ลดลง .38 คะแนน คะแนนเดิมที่ได้คือ 6.90 ล่าสุดได้ 6.52 คะแนน จากคะแนนเต็ม 10 คะแนน ที่ปชช. พอใจมากที่สุดคือด้านความั่นคงของประเทศได้ 7.30 คะแนน ที่น้อยที่สุดคือด้านเศรษฐกิจ 5.89 คะแนน

ด้านตัวพล.อ. ประยุทธ์ ความพึงพอใจในการปฏิบัติหน้าที่ ในฐานะนายกรัฐมนตรี ได้เฉลี่ย 7.43 คะแนน ลดลง 0.33 คะแนน ด้านที่ได้คะแนนมากที่สุดคือ ความเด็ดขาดกล้าตัดสินใจ 8.04 คะแนน และด้านที่ได้คะแนนน้อยที่สุดคือ ความสามารถสร้างสรรค์ผลงานหรือโครงการใหม่ๆ 6.41 คะแนน

กรุงเทพโพลล์ยังพบว่าเสียงสนับสนุนที่จะให้พล. อ. ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรีลดลงด้วย หากปชช. มีสิทธิ์เลือกนายกรัฐมนตรี ประชาชน 75% จะออกเสียงสนับสนุน ซึ่งลดลง 5.5% เมื่อเปรียบเทียบกับการสำรวจในช่วง 3 เดือนที่คสช. บริหารประเทศ ขณะที่ 12.6% จะไม่ออกเสียงสนับสนุน ที่เหลือ 12.4% งดออกเสียง

สิ่งที่ปชช. อยากได้จากรัฐบาลเพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ปีนี้ อันดับ1 คือ ช่วยทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น จะได้สร้างงาน สร้างรายได้ อันดับ 2 คือ ช่วยทำให้ผลผลิตทางการเกษตร เช่น ข้าว ยางพารา มีราคาสูงขึ้น อันดับ 3 คือ ช่วยทำให้ราคาสินค้าต่างๆ และค่าครองชีพถูกลง

การสำรวจของกรุงเทพโพลล์ เป็นการสุ่มตัวอย่างจากปชช.ทั่วประเทศ ที่มีอายุ 18 ปี ขึ้นไป จำนวน 1,158 คน โดยการสุ่มสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ ระหว่างวันที่ 1-3 ธ.ค. ที่ผ่านมา ผู้จัดทำโพลล์ระบุว่าการประมาณการขนาดตัวอย่างมีขอบเขตของความคลาดเคลื่อน ± 3% ที่ระดับความเชื่อมั่น 95%
...

ความเห็น...

ถ้าเพิ่มก็แปลกหละ ม่ายเห็นทำไรเป็นชิ้นเป็นอัน พล่ามอยู่นั่น

จำได้อย่างเดียว คือ ปล้น

ขอเพิ่ม เราจะทำตามสัญญา???? สัญญาอะไร ??

กับอำนาจแบบเบ็ดเสร็จที่มีในมือ ที่ไม่ต้องผ่านขั้นตอนการตรวจสอบใดๆตามปกติ ผ่านมา6เดือนยังไม่มีอะไรงอกเป็นชิ้นงานที่น่าจะนำมาเรียกความเชื่อมั่นได้เลย จะอ้างกระแสต้านก็ฟังไม่ขึ้นเพราะ ฝ่ายต่อต้านนั้นก็ไม่ได้ออกมาเสดงพลังต่อต้านอะไรกันนักอย่างมากก็แค่มายืนชูมือไม่ได้ไปขัดขวางการทำงานแม้แต่น้อย ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว หากมีความสามารถจริง สร้างผลงานเป็นที่ยอมรับได้จริง ก็คงทำให้คนที่ต้านเหล่านี้หันมาศรัทธาได้ไม่ยากเลยด้วยซ้ำไป แต่เพราะความไม่เอาไหน ไร้ความสามารถ จึงไม่สามารถสร้างความเชื่อถือศรัทธาให้มีขึ้นได้ กลับจะเริ่มทำให้คนที่เคยเชื่อถือสนับสนุน ที่เป็น"ฝ่ายเดียวกัน" รู้สึกผิดหวัง ออกอาการไม่พอใจกันมากขึ้นเสียอีก