วันเสาร์, ตุลาคม 04, 2557

ความเห็น ธเนศวร์ เจริญเมือง ต่อ บทความ "จากฮ่องกง 2014 ถึง 14 ตุลา 2516"


แสดงว่าคนเขียนข่าวการเมืองคนนี้ ไม่ได้ศึกษากำเนิดและการล่มสลายของขบวนการนักศึกษาไทย 

ความเข้มแข็งของนักศึกษาไทยตั้งแต่ก่อน 14 ตุลา 2516 ถึง 6 ตุลา 2519 ทำให้ชนนั้นนำไทยหวาดกลัวจึงได้สังหารโหดที่ธรรมศาสตร์ จับกุมนักศึกษาไปหลายพัน ส่งผลให้นักศึกษาไทยหลบหนีภัยเข้าไปในป่าถึง 4 พันคนเศษ จากนั้น ชนชั้นนำก็ทำลายสถาบันอุดมศึกษาไทยด้วยการเข้าไป 

1. เปิดประชาธิปไตยเฟ้อ ให้นักศึกษามีสิทธิเลือกตั้งอธิการบดี และคณบดี (แต่รัฐบาลมาจาก รปห 55) เพื่อหลอกให้นศ.สบายใจว่าเออ บ้านเมืองเราเป็นปชต. 

2.จากนั้นก็ค่อยๆแก้ไขโครงสร้างการบริหารมหาลัยให้ชนชั้นนำเข้าไปยึดกุมทุกมหาลัย ให้สภาอาจารย์อ่อนแอ ให้ทีมผุ้บริหารเป็นฝั่งกลุ่มชั้นนำต่อเนื่อง 

3. เข้าแก้ไขหลักสูตร ให้แบ่งวิชาต่างๆออกไปเป็น สาขาใครสาขามัน เอกใครเอกมัน ไม่ต้องเรียนรัดสาด การเมือง ให้พวกสายวิทย์ไม่รู้เรื่องรัดสาด-สังคมสาด สร้างบัณฑิตมหาลัยเป็นนักเทคนิค รู้แต่วิาชีพของตัวเอง แต่ไม่รู้ไม่เข้าใจภาพรวมองค์ความรู้ของสังคม สร้างคำขวัญหรู ไทย กันไปทั่ว ว่า สร้างตน สร้างคน สร้างงาน แต่จริงๆ เป็นแค่นักเทคนิคธรรมดา ไม่รู้เรื่องสังคมอะไร ประวัติสาดท้องถิ่นก็ไม่รู้เลย 

4. มหาลัยจัดงบให้นักศึกษารับน้อง คุมน้อง ให้น้องหลงใหลสยบยอมในอำนาจ-ลัทธพรรคพวก-คณะนิยม-บ้าคณะ บ้าเพลงเชียร์ บ้ากิจกรรม เน้นอาวุโส ไม่สนใจการเมือง ไม่สนใจวิชาการ กิจกรรมมาก่อน วิชาเรียนมาทีหลัง ไม่ยอมให้น้องใหม่ตั้งชมรมเอง เลือกชมรมจำกัดเฉพาะที่มีไว้ ดูแลน้องเต้มที่สร้างเป็นพวกเดียวกันจนสำเร็จ อยู่ในโอวาทหมดแล้ว ก็สืบสานกันต่อๆไปทุกปี สืบทอดกันตลอด โดยไม่สนใจการเมืองทั้งระดับประเทศหรือในมหาลัยกันอีกต่อไป 

ปิดเทอมมาก็ขนอุปกรณ์ไปทำงานในชนบท ทำตัวเป็นนักบุญ เป็นคนเสียสละ ไปช่วยชาวบ้านผู้ทุกข์ระทม ไปร้องเพลงดีดกีร์ต้า จีบกัน ลำบากในชนบท นึกว่าได้ทำตามอุดมการณ์ยิ่งใหญ่ แต่ไม่เคยไปนั่งเรียนรู้อะไรจากชาวบ้าน คิดว่าตนเองเป็นพ่อพระไปช่วยชาวบ้าน ทำประโยชน์ให้แก่สังคมแล้ว 

จากนั้น ขบวนการนักศึกษาก็ตกต่ำลงไปเป็นลำดับ จนในด้านหลักก็หมดสภาพ อยู่กับกิจกรรมรับน้อง กีฬา ไหว้ครู ซื้อของ ดูหนัง ดื่มยามดึก มือถือและระบบดิจิตัลในปัจจุบันยิ่งนำนักศึกษาไปอยู่ชีวิตที่ห่างไกลจากสังคม เพราะเงินทองก็มีคนดูแลให้อยู่แล้ว น้อยคนที่ยืมเงินมาเรียน จึงไม่แปลก พออธิการบดีต่างๆนำชุมนุมตอน พรบ. นิรโทษกรรม จึงพร้อมกันออกมาโดยไม่ถาม ไม่อภิปราย ไม่สงสัย ไม่คิดอะไร แล้วก็หายไป ไม่ทำอะไรอีก 

สรุปก็คงพร้อมที่จะเป็นเครื่องมือของผู้บริหารได้อย่างดี ที่ระบอบอำมาตยาต้องการความช่วยเหลือ อนึ่ง ถึงตอนนี้ ก็คงยังงงๆกันอยู่ว่าเอ๊ะ เขาทำอะไรกันที่ฮ่องกง เกี่ยวอะไรกับเราล่ะ คงเป็นแบบนี้นะครับ
...

บทความที่เกี่ยวข้อง...

จากฮ่องกง 2014 ถึง 14 ตุลา 2516

Voice TV