วันพฤหัสบดี, กันยายน 04, 2557

คนไทยกำลังสำลักความสุข...นิติ นวรัตน์


ที่มา Thai Free News

คนไทยกำลังสำลักความสุข...นิติ นวรัตน์

ต้องช่วยกันแก้ไข ไม่เช่นนั้นตายหมู่

โดย คุณนิติ นวรัตน์

‘เจ้าของร้านขายอุปกรณ์แต่งรถในร้านขนาดเล็ก
ในห้างแห่งหนึ่ง เคยขายได้วันละ 20,000 บาท
ตอนนี้เหลือไม่ถึง 5,000 บาท

ร้านขายชาโบราณที่เคยขายได้วันละ 5,000-10,000 บาท
ตอนนี้เหลือ 3,000 บาท ตัวเลขจากการสำรวจการค้าขาย
ในห้างสรรพสินค้าของไทย ขายได้น้อยลงทุกห้าง 20-80%’, ‘
ร้านอาหารหลายแห่งต้องมีการลดแลกแจกแถม’, ‘
พนักงานโรงแรมขนาดใหญ่ใจกลางกรุงเทพฯ
ออกมาเปิดใจในชะตากรรมเรื่องถูกลอยแพหลังโรงแรมปิด’

บริษัททัวร์หลายแห่งปิดกิจการไปแล้ว
เพราะไม่มีลูกค้าเข้ามาเยือนเมืองไทย
บางแห่งต้องให้พนักงานออกเพื่อรักษากิจการ
เจ้าของสวนยางแห่งหนึ่งซึ่งแต่เดิมเฮฮา
ขนเพื่อนๆมาประท้วงทางการเมืองในกรุงเทพฯไม่เคยขาด
วันนี้ประกาศหยุดกรีด เพราะไม่มีคนรับจ้างกรีดยางแบ่งครึ่ง
ด้วยเหตุว่าราคายางแผ่นตกลงไปเหลือเพียงกิโลกรัมละ 50 บาท
ขี้ยางเหลือกิโลกรัมละ 22 บาท กรีดและแบ่งกันไปยังไงก็ไม่คุ้ม
ทั้งเจ้าของสวนและทั้งคนรับจ้างกรีด

ความโกลาหลอลหม่านเกิดในราชอาณาจักรไทย
ของเราทีละน้อยจนปัจจุบันทุกวันนี้
ความจนด้นลึกเข้าไปจนจะถึงขีดที่
ละม้ายคล้ายวิกฤติเศรษฐกิจ พ.ศ.2540 แล้ว

ประชาชนคนไทยจำนวนหนึ่งดำรงชีวิตอยู่ได้ด้วยเงิน
ที่ส่งมาจากหัวหน้าครอบครัวที่เดินทางไปทำงาน
ในภูมิภาคตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ
ทั้งที่อิสราเอลและลิเบีย จากใจแรงงานไทย
ที่รับผิดชอบปากท้องของลูกเมียตัวเอง
แม้ว่าจะมีสถานการณ์การสู้รบรุนแรงขนาดไหน
แต่แรงงานไทยก็ยังยอมปักหลักทำงาน
เพียงแต่ทางการไทยไม่ไว้ใจให้ทำงานต่อ
เพราะมีผู้เสียชีวิต ก็ขอให้กลับ ทำให้เงิน
ที่เสาหลักของครอบครัวส่งกลับมาบ้านทุกเดือนหายไป

ไหนจะเป็นหนี้ที่ไปกู้ยืมเอามาเป็นค่าหัว
ไหนจะหนี้ค่าเดินทาง กรมการจัดหางานบอกว่า
จะมอบเงินจากกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนงานไทย
ที่ไปทำงานต่างประเทศคนละ 40,000 บาท
ให้แก่ญาติ เงินจำนวนนี้ก็คงมลายหายไป
ในเวลาเพียงเดือนสองเดือน แล้วเดือนต่อๆไปเล่า?

ผมอ่านจากศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและ
ธุรกิจธนาคารไทยพาณิชย์ บอกว่าสถานการณ์หนี้
ครัวเรือนของไทยพุ่งสูงสุดในรอบ 9 ปี
หนี้ครัวเรือนตัวนี้นี่แหละครับ จะทำให้การบริโภค
ในประเทศของคนไทยไม่กระดิกพลิกตัว

ตอนนี้ก็เป็นที่ยอมรับกันทั้งทวีปเอเชียแล้วนะครับ
ว่าหนี้ครัวเรือนของไทยมีอัตราการขยายตัวเร็วที่สุดในเอเชีย
ที่ว่าขยายตัวเร็วที่สุดเพราะปัจจุบันอัตราการขยายตัว
ของหนี้ครัวเรือนของเราอยู่ที่ 82.3% ของจีดีพี
คนรวยไม่เป็นไรดอกครับ แต่คนจนซีครับแย่
เพราะหนี้ครัวเรือนส่วนใหญ่จะอยู่ในกลุ่ม
คนที่มีรายได้ที่ต่ำกว่า 10,000 บาทต่อเดือน

พวกอสังหาริมทรัพย์ก็โอดว่า เห็นท่าจะต้อง
พับโครงการและเก็บข้าวของกลับบ้าน
เพราะยอดจำหน่ายบ้านเดี่ยวทั่วกรุงเทพฯ
ลดลงจากช่วงเดียวกันของปี 2556 ถึง 31%
และลดลงทุกทำเล เดือนมิถุนายน พ.ศ.2557
ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์นั่งหดตัวชะลอลง 33.7%
รถยนต์เชิงพาณิชย์หดตัว 27.5%
เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

คณะรัฐมนตรีต่างประเทศสหภาพยุโรปออกแถลงการณ์ว่า
จะระงับการเยือนอย่างเป็นทางการระหว่างกัน
+จะไม่ลงนามความตกลงว่าด้วยความเป็นหุ้นส่วน
และความร่วมมือ (PCA) กับไทย ผมสังหรณ์ใจยังไงชอบกล
ว่าข้อตกลงเขตการค้าเสรี 6 ฉบับ
ระหว่างไทยกับอียูจะสะดุด หากการเจรจาเอฟทีเอรอบที่ 4
ไม่จบทันปลาย พ.ศ.2557 ผู้อ่านท่านตัดเปิดฟ้าส่องโลก
แปะข้างฝาไว้พิสูจน์ได้เลยว่า ปีหน้า พ.ศ.2558
เราจะมีปัญหาเศรษฐกิจรุนแรง เพราะสินค้าไทย
ที่จะส่งไปยุโรปจะถูกตัดสิทธิพิเศษ 6,200
รายการ เป็นเงินมหาศาล 2.9 แสนล้านบาท

โรงงานหลายแห่งตั้งอยู่ในแผ่นดินไทยไม่ได้แล้วครับ
เพราะเราจะไม่ได้รับสิทธิพิเศษจากสหภาพยุโรป
ประเภทที่ต้องย้ายด่วนก็เป็นโรงงานที่ผลิตยานยนต์ขนส่ง
กุ้งปรุงแต่ง ถุงมือยาง เลนส์แว่นตา เครื่องปรับอากาศ
ยางนอกรถยนต์ กุ้งแช่เย็นแช่แข็ง สับปะรดกระป๋อง ฯลฯ
ใครยังอยากพึ่งพาตลาดสหภาพยุโรป
ก็จะต้องย้ายฐานการผลิตไปที่กัมพูชา
พม่า และลาว ซึ่งยังคงได้รับสิทธิพิเศษจากสหภาพยุโรปอยู่

ส่วนใครที่ยังต้องการผลิตและส่งออกไปตลาดอเมริกัน
ก็ต้องย้ายฐานการผลิตไปที่ญวน เพราะญวน
ได้รับการต่ออายุจีเอสพี เสียภาษีนำเข้า 10% ไปอีก 3 ปี
และถ้าญวนเจรจาความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจ
ภาคพื้นเอเชีย-แปซิฟิกกับสหรัฐฯสำเร็จ
ก็จะได้ลดภาษีนำเข้าเครื่องนุ่งห่ม
ลงเหลือ 0% ในขณะเครื่องนุ่งห่มที่ยังผลิตในไทย
จะโดนโขกภาษีนำเข้าสูงถึง 30%

ความ ‘จนอย่างยิ่ง’ กำลังมาเยือนประชาชนคนไทย

ต้องชุมนุมสุมหัวช่วยกันคิดแก้ไขครับ.