วันศุกร์, สิงหาคม 15, 2557

สั่งเก็บ “มติชนสุดสัปดาห์” ออกจากแผงทันที หลังรายงานโยง “ประยุทธ์” พาดพิงเบื้องสูง





เอเยนต์หนังสือคอนเฟิร์ม “มติชน” สั่งเก็บนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ออกจากแผงทันที อ้างไม่อยากให้โรงพิมพ์ถูกปิด พบเนื้อหานอกจากเชลียร์ “ยิ่งลักษณ์” ตามสูตรแล้ว พบรายงานพิเศษเปรียบ “ประวิตร” บารมีเทียบ “ป๋าเปรม - สุรยุทธ์” แถมโยง “บิ๊กตู่” พาดพิงกับสถาบันเบื้องสูง

วันนี้ (15 ส.ค.) มีกระแสข่าวว่า ผู้บริหารบริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) ได้สั่งไปยังผู้แทนจำหน่าย (เอเยนต์) หนังสือทั่วประเทศให้สั่งยุติการจำหน่ายนิตยสารวิเคราะห์ข่าวมติชนสุดสัปดาห์ ปีที่ 34 ฉบับที่ 1774 ประจำวันที่ 15 - 21 สิงหาคม พ.ศ. 2557 ยกเว้นในส่วนที่มีการส่งต่อไปยังแผงหนังสือแล้ว เนื่องจากมีข้อผิดพลาดบางประการในฉบับ โดยให้ดำเนินการทันที โดยให้เหตุผลเพียงสั้นๆ ว่า ไม่อยากให้โรงพิมพ์ถูกปิด

ขณะเดียวกัน ASTVผู้จัดการ ได้โทรศัพท์สอบถามไปยังผู้แทนจำหน่ายหนังสือ พบว่า มีการยืนยันกรณีการสั่งเก็บนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์จริง

สำหรับนิตยสารวิเคราะห์ข่าวมติชนสุดสัปดาห์ ปีที่ 34 ฉบับที่ 1774 ประจำวันที่ 15 - 21 สิงหาคม พ.ศ. 2557 หน้าปกเป็นภาพของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมข้อความตัวหนังสือสีแดงระบุว่า “หยุด ตรงดั่งปลาย ทวน” พร้อมการ์ตูนเจ้าจุกแต่งเครื่องแบบคล้ายทหาร ระบุข้อความ “คิดถึงนะ จาก...ลุงยู๊ดดด”

และเมื่ออ่านเนื้อหาด้านใน พบว่ามีบทความวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) โดยบทนำในหน้า 10 ที่ชื่อว่า “หยัดตรงดั่งปลายทวน” ซึ่งระบุถึงการเดินทางกลับประเทศไทยของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ หลังเดินทางไปต่างประเทศ ได้ลบคำสบประมาท และจินตนาการของบางฝ่าย บางกลุ่ม ที่ร่วมกันประโคมข่าวว่ามีลักษณะหลบหนีคดีเช่นเดียวกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้ต้องหาหนีคดีอาญาแผ่นดิน ซึ่งเป็นพี่ชาย ถือเป็นการแสดงจุดยืน “หยัดตรงดั่งปลายทวน” พร้อมสู้คดีความต่างๆ โดยเฉพาะทุจริตจำนำข้าวอย่างเปิดเผย

ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ยืนยันที่จะไม่ตอบสนองข้อเสนอของฝ่ายที่ต้องการหักโค่นระบอบทักษิณด้วยวิธีพิเศษทุกกรณี โดยให้ดำเนินคดีไปตามกระบวนการยุติธรรมปกติ ซึ่งเป็นที่พอใจของฝ่าย พ.ต.ท.ทักษิณ และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ จึงแสดงท่าทีทำตัวเงียบๆ ไม่ก่อปัญหาให้ คสช. เป็นการตอบแทน แต่ทั้งสองฝ่ายยังต่างคุมเชิงกันอย่างใกล้ชิด โดย คสช. พยายามหาประเด็นเชื่อมโยงกลุ่มการเมืองฮาร์ดคอร์ที่ต่อต้าน คสช. และต้องการให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ และตระกูลชินวัตรมาร่วมต่อสู้หรือเป็นแนวร่วม แต่ก็พยายามแยกตัวออกห่าง

บทวิเคราะห์ดังหล่าวยังระบุอีกว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ รู้ดีว่ากำลังถูกจับตาด้วยเรื่องละเอียดอ่อน จึงต้องปักหลักนิ่งเฉย ปล่อยให้ คสช. โชว์ฝีมือการบริหารประเทศ และการปฏิรูปประเทศ หากไม่สามารถตอบสนองความคาดหวังของประชาชน โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ โอกาสของฝ่าย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ก็จะเปิดกว้างขึ้นเอง แต่ขณะเดียวกัน กลไกที่ คสช. สร้างขึ้น คุมกำเนิดฝ่ายการเมืองตรงข้ามอย่างเต็มที่ เช่น การเขียนรัฐธรรมนูญชั่วคราว ไม่ให้นักการเมืองเข้าสู่เวทีการเมือง ห้ามผู้ที่ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองเข้ารับตำแหน่งทางการเมือง หากไม่มีการต่อต้านจะกลายเป็นประเด็นถาวรในรัฐธรรมนูญจริงได้ ทำให้นักการเมืองในฟากอำนาจเก่าหายไปเกือบหมด

ส่วนรายงานพิเศษในหน้า 16 ที่ชื่อว่า “จาก “ป๋าเปรม” ถึง “ป๋าป้อม” ขั้วอำนาจใหม่ไทยแลนด์ “3 ป. 3 ทหารเสือฯ” กับไวท์เฮาส์ ร.1 รอ. ทำเนียบ คสช.” ระบุว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ, พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา และ พล.อ.ประยุทธ์ ถูกพาดพิงมาตลอดว่าอยู่เบื้องหลังการชุมนุมของกลุ่ม กปปส. ที่นำโดย นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เพราะมีสายสัมพันธ์ที่แนบแน่นมาตั้งแต่ตอนช่วงปราบคนเสื้อแดง และการรัฐประหารเมื่อวันที่ 22 พ.ค. ที่ผ่านมา ย่อมถูกมองว่าเป็นการวางแผนตัดสินร่วมกันของ 3 พี่น้องบูรพาพยัคฆ์ และภายหลัง พล.อ.ประยุทธ์ แต่งตั้งคณะที่ปรึกษา คสช. โดยมี พล.อ.ประวิตร เป็นประธาน และ พล.อ.อนุพงษ์ เป็นรองประธาน

และในช่วงการชุมนุมของ กปปส. มีโผรายชื่อรัฐบาลเฉพาะกาลออกมาแล้ว โดยมีชื่อของ พล.อ.ประวิตร เป็นนายกรัฐมนตรีบ้าง เป็น รมว.กลาโหม บ้าง และ พล.อ.อนุพงษ์ เป็น รมว.มหาดไทย บ้าง แต่ในที่สุด รายชื่อที่เห็นในเวลานั้น จะมาอยู่ในโผคณะรัฐมนตรี ที่จะมี พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรี แต่ พล.อ.ประวิตร รู้ตัวว่าถูกจับตามอง จึงปฏิเสธที่จะเทียบเชิญ แต่ตกลงที่จะส่ง พล.อ.อนุพงษ์ เข้าร่วม ครม. ของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่กำลังจะจัดตั้งเสร็จในเดือน ส.ค. หลังจากสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ที่มีทหารมากกว่าครึ่งหนึ่ง เสนอชื่อและโหวตให้ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรี แต่เป็นที่น่าสังเกตว่า รายงานพิเศษในมติชนสุดสัปดาห์ฉบับนี้มักจะเน้นไปที่ พล.อ.ประวิตร เป็นพิเศษ เช่น

“แต่ทว่า บารมีของ พล.อ.ประวิตร ก็ไม่ได้น้อยลงเลย ในเมื่อเขายังเป็นคนที่ พล.อ.ประยุทธ์ ให้ความเคารพนับถือ เชื่อถือ และเป็นคนที่ พล.อ.ประยุทธ์ ยกย่องให้เป็น “พี่ที่ดี” เป็นตัวอย่างของนายทหารที่ดี ทำเพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และประชาชน มาตลอด

ยิ่งหากดูรายชื่อ สนช. แล้ว คนที่จัดโผก็คือ พล.อ.ประวิตร นั่นเอง เพราะนอกจากส่วนใหญ่ของ สนช. ที่เป็นทหารเกษียณ จะเป็นเพื่อน ตท.6 ของเขาแล้ว ยังมีน้องรักในสายบูรพาพยัคฆ์ที่เกษียณไปแล้ว และบรรดาบิ๊กๆ ทหารในมูลนิธิป่ารอยต่อฯ ของ พล.อ.ประวิตร ทั้งสิ้น” รายงานพิเศษ ระบุ

ในรายงานพิเศษของมติชนสุดสัปดาห์ดังกล่าว ยังพาดพิงไปถึง พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ โดยเปรียบเทียบและยกให้ พล.อ.ประวิตร เป็นป๋าคนที่ 2 ของวงการทหาร หลังการยึดอำนาจของ คสช. พร้อมทั้งเห็นว่า มูลนิธิ ป่ารอยต่อฯ ที่ พล.อ.ประวิตร เป็นประธาน กลายเป็นมูลนิธิแห่งอำนาจที่กำลังมาแรง แซงโค้งมูลนิธิรัฐบุรุษของ พล.อ.เปรม และมูลนิธิพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ของ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี ซึ่ง พล.อ.สุรยุทธ์ กับ พล.อ.ประวิตร ไม่ใช่พวกเดียวกันในกองทัพ ขณะเดียวกัน บารมีของ พล.อ.ประวิตร ทำให้บ้านสี่เสาเทเวศร์ค่อยๆ อับแสง โดยได้พาดพิง พล.อ.ประยุทธ์ กับสถาบันเบื้องสูง ซึ่งผู้สื่อข่าวไม่สามารถระบุรายละเอียดอย่างชัดเจนได้

นอกจากนี้ รายงานพิเศษของมติชนสุดสัปดาห์ ยังกล่าวถึงกรณีที่ยุครัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ย้าย พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร พี่ชายพ้นเก้าอี้ ผบ.ทบ. ที่นั่งมาแค่ 1 ปี ให้ไปแขวนเป็น ผบ.สส. เพื่อให้ พล.อ.ประวิตร มาเป็น ผบ.ทบ. จึงถือว่า พล.อ.ประวิตร กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ยังมีเยื่อใยความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันอยู่บ้าง แม้ พล.อ.ประวิตร จะเลือกข้างพรรคประชาธิปัตย์ และสนิทสนมกับนายสุเทพ ก็ตาม แต่ก็ไม่ได้เป็นศัตรูกัน เป็นเหตุผลหนึ่งที่ คสช. ไม่ได้ตามไล่บี้ พ.ต.ท.ทักษิณในต่างแดนอีกด้วย

อีกด้านหนึ่ง บทความในนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ ยังมีเนื้อหาวิพากษ์วิจารณ์ คสช. ในด้านอื่นๆ อาทิ บทบาทของ “ปรีดิยาธร” ในการกำกับทิศทางทางเศรษฐกิจ รัฐบาล ประยุทธ์ จันทร์โอชา, คสช. เดินหน้า จาก “พรเพชร” สู่ ว่าที่นายกฯ ตู่ “สนช.- สปช.” เคลื่อนสู่ 36 กมธ. ร่าง “รธน.”, คสช. “แจกแหลก” ซื้อใจ ขรก. ขึ้นเงินเดือน-เบี้ยเลี้ยง/โอที ช่วยชั้นผู้น้อย - เติมกำลังซื้อ, ส่งไม้ต่อ คสช. สู่ รบ.ใหม่ ไม่ใช่กลีบกุหลาบกรุยทาง แค่งานหิน รอพิสูจน์ฝีมือ และ ความมั่งคั่ง มหาเศรษฐีไทย เติบใหญ่ในเศรษฐกิจชะลอ เป็นต้น
ooo

ส่วนในประชาไท ได้โพสต์ เก็บ "มติชนสุดสัปดาห์" ลงจากแผง - หลังมีบทกวีสะกดผิด ให้เหตุผลว่า...

"...น่าจะมาจากบทกวีที่หน้าท้ายๆ ของมติชนสุดสัปดาห์ ซึ่งแต่งโดยผู้ใช้นามปากกาว่า "ระริน มุข" ซึ่งบทกวีดังกล่าว มีอยู่บทหนึ่งที่สะกดคำผิดหนึ่งจุด ซึ่งอาจทำให้ถูกตีความว่าผิดกฎหมายได้"